วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สอนนักเรียนทำโปรเจ็กวันแรก

เมื่อวันที่ 20 พฤษจิกายน 2557 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปสอนนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน สร้างโปรแกรมด้วย C# การเขียนโปรแกรมในวันนั้นเป็นครั้งแรกสำหรับพวกเขา จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนเป็นครูที่จะต้องคิดวิธีการให้นักเรียนไม่เบื่อกับการเขียนโปรแกรมไปเสียก่อน

ผมได้เล่าชีวประวัติของบุคคลสำคัญในวงการคอมพิวเตอร์อย่าง Steve Jobs และ Bill Gates ให้เด็กๆ ฟัง และในช่วงเวลานั้นได้มีได้มีข่าวฮือฮาในวงการดาราศาสตร์ นั่นคือภารกิจ Rosetta ของ ESA ลงจอดบนดาวหาง 67P สำเร็จ ผมจึงถือโอกาสนี้เล่าความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับภารกิจนี้ และดึงเข้าเรื่องด้วยการบอกนักเรียนว่ายานฟิลเล่ที่อยู่บนดาวหาง ห่างจากโลกเป็นพันล้านกิโลเมตร คนบนโลกไม่สามารถที่จะควบคุมยานได้ทันเพราะต้องใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าคลื่นวิทยุจะถึงดาวหาง ต้องอาศัยการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อที่จะให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้ ซึ่งนั่นคือต้องเขียนโปรแกรม

นักเรียนตั้งใจเรียนครับ แถมมีบางคนรู้เรื่องภารกิจจอดบนดาวหางนี้ (บอกได้ดูถ่ายถอดสดด้วย) เด็กคนนี้เก่งครับ การสอนผมใช้วิธีการสอนแบบสาธิตแล้วให้นักเรียนเขียนโค้ดตาม อธิบายหลักการเขียนโปรแกรมภาษา C ไปด้วยเลย เวลาน้อยแค่ 50 นาที วันนั้นแทบจะวิ่งสอน เด็กส่วนใหญ่สามารถเขียนโปรแกรมได้แต่ก็ยังเป็นได้แค่คนพิมพ์โค้ดเพราะว่าวันนั้นผมสอนไม่ทัน ยังไม่อธิบายโค้ดเสียด้วยซ้ำเวลาหมดก่อน คิดไว้แล้วว่าต้องสอนไม่ทันผมเลยสร้างคลิปสอนย้อนหลังไว้


(วันที่ 24 พฤษจิกายน 2557 เห็น 7 Views หวังว่าจะเป็นนักเรียนของผม)





การสอนวันแรกสนุกครับ แม้ว่าจะกระตุกบ้าง... แต่มันคือการเริ่มต้นการสอนด้วยโครงงาน รูปแบบการเรียนที่ผมชอบมากที่สุด

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

English Idioms -- using color words



Today I want to share with you an English Idioms...

After the class today, I have learnt English idioms. I think it is very important to know an idioms because when people say it but we don't know, what will happen.... I don't want to imagine.

What is an idioms?
Idioms is a common words that use to describe something indirectly for more easier understanding but for non-native speakers, this kind of thing quite a little bit confuse.

So I would like to present useful English idioms using colors here :
  1. to see red = very angry.
  2. green with envy = wanting something that someone else has.
  3. to feel blue = sad.
  4. to be tickled pink = very happy.
Let we see an example :

- Jessica was seeing red when her computer suddenly crashed.
- When George brought home his expensive car, his neighbor Bill was green with envy.
- After Susan's boyfriend left her, she felt blue and cried all the time.
- John asked Nancy to marry him. He was tickled pink when she said yes.

by the way, there is some slang word, "your call" it's not mean someone want you to make a call but its mean "up to you.."


Nice day...
Nott


วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

การตั้งค่า Raspberry Pi โดยไม่ใช้จอและคีย์บอร์ด

Raspberry Pi คือคอมพิวเตอร์เครื่องจิ๋วที่ใครๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อมาแล้ว แต่อย่างไม่เคยได้ลองใช้มันซักที วันนี้ผมจะมาขอนำเสนอวิธีการตั้งค่าคอมพิวเตอร์เครื่องเล็กเครื่องนี้สำหรับคนที่ไม่มีจอ และไม่มีคีย์บอร์ด เริ่มกันเลย

Raspberry Pi Model B

โปรแกรมที่ต้องใช้

  1. SD Formatter (คลิกเลือก I Accept)
  2. Image Writer
  3. Putty (เลือกให้ตรงกับระบบปฏิบัติการของท่าน)
  4. Xming
ฮาร์ดแวร์ที่ต้องใช้
  1. Raspberry Pi Model B
  2. SD Card ขนาดไม่ต่ำกว่า 4GB
  3. สาย USB
  4. สายแลนแบบตรง


อุปกรณ์ที่ต้องใช้
เริ่มจาก Format SD Card โดยใช้โปรแกรม SD Formatter โดยเลือก Drive ของ SD Card จากนั้นกด Format ข้อควรระวังคือ ต้องเลือก Drive ของ SD Card ให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นกด Format ไปข้อมูลใน Drive เราจะเสียหายได้ โดยในกรณี SD Card ของผมอยู่ Drive I
เลือก Drive SD card จากนั้นกด Format
ดาวน์โหลดระบบปฏิบัติการ Raspbian จาก http://www.raspberrypi.org/downloads/ ซึ่งจะเป็นระบบปฏิบัติการที่อยู่บน Raspberry Pi ต่อไป
ดาวน์โหลดระบบปฏิบัติการ Raspbian

จากนั้นให้แตกไฟล์ zip ของ Raspbian ที่ได้ดาวน์โหลดมา จากได้เป็นไฟล์นามสกุล .img ซึ่งก็คือไฟล์ image ของระบบปฏิบัติการ ต่อไปให้ใช้โปรแกรม Image Writer เพื่อเขียนข้อมูลลง SD Card จากนั้นกด Write การเขียนข้อมูลลงการ์ดจะใช้เวลาซักครู่

เปิดโปรแกรม Image Writer แล้วเพิ่มไฟล์ระบบปฏิบัติการที่ได้ดาวน์โหลดมา
เมื่อเขียนข้อมูลลงการ์ดเสร็จแล้ว เปิดไฟล์ที่อยู่ในการ์ดขึ้นมา แล้วหาไฟล์ชื่อ cmdline.txt เข้าไปเพิ่มเนื้อหาในไฟล์เป็น ip ที่เราต้องการ config ให้กับ Raspberry Pi ในตัวอย่างนี้กำหนดเป็น ip=169.254.1.1 พร้อมกับจดหมายเลข ip ดังกล่าวไว้ใช้ในตอนรีโมทเข้าไปยัง Raspberry Pi

เสร็จขั้นตอนนี้การนำ OS ลง Raspberry Pi แล้ว จากนั้นจะเป็นการรีโมทเข้าตัวอุปกรณ์ โดยใส่ SD Card เข้ายังช่องใส่การ์ดของ Raspberry Pi พร้อมกับเสียบสายแลนเข้ากับอุปกรณ์และคอมพิวเตอร์ เสียบสาย USB เข้ากับอุปกรณ์ซึ่งจะกลายไปเป็นแหล่งจ่ายไฟให้ Raspberry Pi นั่นเอง รอซักครู่เพื่อให้อุปกรณ์หา ip เจอ โดยสังเกตที่ไฟแสดงสถานะของระบบเครือข่ายของ Raspberry Pi จะติดทั้งสามดวง

สังเกตไฟแสดงสถานะทั้งสามดวงจะติด
ทดสอบ ping ไปที่ ip ที่เราตั้งไว้ จะพบว่ามีการตอบกลับมาดังรูป
ping ไปยัง ip ของ Raspberry Pi
ขั้นตอนต่อไปคือการรีโมทเข้าตัวอุปกรณ์ โดยการเปิดโปรแกรม Putty ขึ้นมา ที่เมนู Session ให้ป้อน Host name ให้ตรงกับ ip ของตัว Raspberry Pi 

ใส่ Host Name ให้ตรงกับ ip ของ Raspberry Pi

และที่เมนู Connection เมนูย่อย SSH -> X11 ให้ติ๊ก Enable X11 Forwarding จากนั้นกดปุ่ม open
ติ๊ก Enable X11 forwarding
ป้อน user name เป็น pi และ password เป็น Raspberry (Password ขณะพิมพ์จะมองไม่เห็น)
ป้อน user name และ password
เปิดโปรแกรม Xming ที่ได้ดาวน์โหลดและได้ติดตั้งไว้แล้วรอไว้ จากนั้นที่หน้าจอ Console ของโปรแกรม Putty ให้พิมพ์คำสั่ง lxsession ก็จะพร้อมใช้งาน Raspberry Pi แล้วครับ

พิมพ์คำสั่ง lxsession

หน้าจอของ raspberry pi ที่พร้อมใช้งาน


คอยติดตามบทความต่อไป ผู้เขียนกำลังคิดหาหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในห้องเรียน STEM (Sciences, Technology, Engineering, Mathematics) ซึ่งในต่างประเทศได้มีการนำ Raspberry Pi ไปสอนเด็กนักเรียนเขาเขียนโค้ดกันมากแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าอุปกรณ์ราคาถูกเลยทำให้สามารถซื้อได้ในจำนวนเยอะๆ จึงเพียงพอต่อความต้องการของเด็กๆ เพราะฉะนั้นจึงไม่สงสัยเลยว่า นวัตกรรมใหม่ๆ ทำไมออกมาจากเด็กฝรั่งเยอะมาก คงเป็นเพราะความที่เด็กเค้าเข้าถึงเทคโนโลยีตั้งแต่เนิ่นๆ นี่เอง